เหลือเวลาอีก 2 เดือน ก็จะทราบผลการเก็บคะแนนท่องเที่ยว Beingmore trip to japan แล้วครับ มอร์แมนขอเอาใจช่วยให้ทุกๆ ท่านที่มุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มีพลังและแรงบันดาลใจเข้มพอ ที่จะประสบความสำเร็จ ร่วมเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยว ครั้งนี้ร่วมกันครับ ในขณะที่การเก็บคะแนนท่องเที่ยว SuccessmoreWorld Experience ก็ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง เหลือเวลาอีก 6 เดือน ก็ทราบผลแล้ว ว่าใครจะเป็นผู้พิชิตทริปประวัติศาสตร์ ล่องอภิมหาเรือสำราญ “Allure of the seas 2015” ในท้องทะเล Mediterranean จำนวน 7 คืน กับการเยือนเมืองสำคัญๆ ใน 3 ประเทศ ฉบับก่อนหน้านั้น มอร์แมนได้นำเสนอเมืองที่เราจะเติมเต็มประสบการณ์ร่วมกันหลายเมืองด้วยกัน คือ เมืองบาร์เซโลน่าและมายอร์ก้า ประเทศสเปน เมืองอาวีญง เอ็กซ์ ออง โพรวองส์ ประเทศฝรั่งเศสและกรุงโรมประเทศอิตาลีไปแล้ว


ฉบับนี้ มอร์แมนขอนำเสนอเมืองสำคัญอีกหลายเมือง ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในประเทศอิตาลีเพื่อขยายจินตนาการภาพความฝันให้กับพวกเราเพิ่มเติม ซึ่งประกอบไปด้วย

เมืองฟลอเรนซ์ (Florence)



“มหาวิหารแห่งฟลอเรนซ์” (Duomo Santa Maria del Fiore) ซึ่งนับ เป็นมหาวิหารขนาดมหึมาและงดงามที่สุดแห่งหนึ่ง อายุกว่า 800 ปี โดย ใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลีรองจากมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ที่วาติกัน จุดเด่นของมหาวิหารแห่งฟลอเรนซ์คือโดมสีส้มขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดย ฟิลิปโป บรุนเนลเลสซิ สถาปนิกและศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น ภายนอกเป็นลวดลายหินอ่อน ภายในไม่มีเสา ไม่มีคาน แต่ใช้วิธีวางอิฐซ้อนกัน และเพื่อเป็นเกียรติแก่สถาปนิกผู้ออกแบบทางการฟลอเรนซ์ จึงห้ามมิให้มีการสร้างอาคารใดๆ ที่สูงกว่าโดมแห่งนี้



สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับมหาวิหารก็คือ “หอระฆังแห่งเมืองฟลอเรนซ์” (Campanile) เป็นหอสูงสี่เหลี่ยมที่สวยงาม สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบน มองเห็นวิวเมืองที่สวยงามได้อีกด้วย



“พระราชวังเวคคิโอ” (Palazzo Vecchio) ในอดีตเคยเป็นศาลาว่าการเมือง ลอเรนซ์ รวมทั้งเป็นรัฐสภาสมัยที่ฟลอเรนซ์เป็นเมืองหลวงของอิตาลี แต่ในปัจจุบันพระราชวังเวคคิโอถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ด้านหน้าพระราชวัง เป็นลานกว้างที่เรียกว่า “จัตุรัสซินญอเรีย” ด้านข้างเป็น “ลอจเจีย เดอิ ลานสิ” หรืออาคารปะรำพิธีแบบโรมัน ปัจจุบันจัดแสดงรูปประติมากรรม ไว้หลายชิ้น เช่น เพอร์เซอุสบั่นคอนางเมดูซ่า, ประติมากรรม Judith, ประติมากรรม The Rape of the Sabine Women เป็นต้น



"สะพานเวคคิโอ” (Ponte Vecchio) สร้างขึ้น เมื่อประมาณ ค.ศ.1333 อายุประมาณ 600 กว่าปี ถือว่าเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเลยทีเดียว เพราะเป็นเพียงสะพานแห่งเดียวในเมืองที่รอดพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้ ลักษณะของสะพานสองฟากเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย เว้นที่ตรงกลางสะพานไว้เล็กน้อย พอให้ยืนชมวิวแม่น้ำได้


เมืองปิซา (Pisa)



หอเอนปิซ่า

หอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง เป็นหอคอยหินอ่อน สูง 54 เมตร (181 ฟุต) มี 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลาย ลงมือสร้างเมื่อ พ.ศ. 1717 (ค.ศ. 1174) แล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 1893 (ค.ศ. 1350) ใช้เวลานานถึง 176 ปี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความน่ามหัศจรรย์ คือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้เริ่มเอียง แต่ไม่ถึงกับพังทลายลงมา เพราะจุดศูนย์ถ่วง เมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้ม ยังทรงตัวอยู่ได้ เมื่อสร้างเสร็จ ยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร (14 ฟุต) เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างทำมาจากหินปูนและปูนขาว ที่มีคุณสมบัติสามารถโค้งงอและทนต่อแรงต่าง ๆ ได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ จึงทำให้หอเอนปิซ่าไม่ถล่มลงมาแต่กลับค่อย ๆ เอนลงเรื่อยๆและเป็นอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน



เมืองเนเปิ้ล (Naples)

Naples หรือ Napoli ถือเป็นเมืองที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของประเทศอิตาลีและมีผู้อยู่อาศัยอย่างเนื่องกันมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลกมากกว่า 2800 ปี และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลีรองจากโรมและมิลาน เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์หลายแห่งด้วย มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก คือ เป็นเมืองต้นกำเนิดของอาหารยอดฮิตทั่วโลกคือ พิซซ่า นั่นเอง บริเวณใจกลางเมือง เนเปิลส์ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปี คศ.1995 มีจัตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองใกล้ๆ กับอ่าวเนเปิลส์ที่ล้อมรอบไปด้วยเหล่าอาคาร สถานที่ที่มีความสำคัญของเมืองเช่น พระบรมมหาราชวัง (Royal Palace of Naples) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง ( Bourbon Kings) หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีบยุโรป เทียโตร ซานคาร์โล (Teatro sancarlo) โรงละครโอเปร่าที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความเก่าแก่และใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี รวมถึงโบสถ์แห่งเมือง เนเปิลส์ (The Dome of San Gennaro) 



เมืองปอมเปอี (Pompeii)
ปอมเปอี (Pompeii) เป็นเมืองโรมันโบราณที่จมอยู่ใต้ขี้เถ้าลาวา จากการระเบิดของภูเขาไฟ Mt Vesuvius เมื่อ 2000 กว่าปีที่แล้ว นับเป็นหายนะและเป็นการปะทุที่รุนแรงที่สุด มีผู้คนล้มตายทันทีเป็นจำนวนมาก เมืองทั้งเมืองจมหายไปทันที 1700 ปีต่อมา มีการขุดค้นพบโดยบังเอิญ เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญจุดหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย แม้ปัจจุบันเห็นซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถเห็นโครงสร้างของเมืองขนาดใหญ่ ร่องรอยการดำเนินชีวิตของคนในยุคนั้น สภาพบ้านเรือนยังอยู่ในสภาพดี แม้กระทั่งภาพเขียนสีบนฝาผนังและโมเสกปูพื้น มีศิลปวัตถุมากมายรวมทั้งซากชาวเมืองที่ปกคลุมด้วยลาวา ในอิริยาบถสุดท้ายของชีวิต จนมีการนำเรื่องราวของเมืองปออมเปอี ไปสร้างเป็นภาพยนต์ออกฉายทั่วโลก เมื่อไม่นานมานี้


จบครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อย สำหรับภารกิจของมอร์แมน ในการขยายภาพเมือง ขยายภาพสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และที่สำคัญ ขยายภาพความยิ่งใหญ่หรูหราอลังการของอภิมหาเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก "Allure of the seas" เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกันไปเลย มาถึงตอนนี้ อยู่ที่พวกเราแล้ว ที่จะต้องรู้เหตุผลว่า "ทำไมถึงต้องไป Mediterranean trip นี้ให้ได้" ถ้าเรามีความต้องการที่จะเติมเต็มประสบการณ์นี้ จริง ๆ มอร์แมนขอให้ทุก ๆ ท่านตั้งเป้าหมาย แล้วลงมือทำอย่างต่อเนื่องในการแบ่งปันโอกาสและส่งต่อการยกระดับผู้นำเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับผู้คนอย่างเต็มกำลัง มอร์แมนมั่นใจว่าทุก ๆ ท่านมีโอกาสที่จะได้ฉลองความสำเร็จร่วมกันบนเรือ Allure of the seas อย่างแน่นอนครับ


ฉบับหน้า เตรียมพบกับโปรโมชั่นท่องเที่ยวใหม่ในโปรแกรม "Being more trip 2015" ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในเดือน มีนาคม 2558 เตรียมตัวตื่นเต้นกันได้เลยครับ

Other Trip

ยุโรปตะวันออก 3
EASTERN EUROPE "ยุโรปตะวันออก"
ALLURE OF THE SEAS 2015 (2)
ALLURE OF THE SEAS 2015